เลี้ยง “แฝด” ให้มีสิทธิ์แตกต่าง

เลี้ยง “แฝด” ให้มีสิทธิ์แตกต่าง
ลูกแค่หน้าตาเหมือนกัน แต่ไม่ใช่คนเดียวกัน

 เลี้ยง “แฝด” ให้มีสิทธิ์แตกต่าง
ลูกแค่หน้าตาเหมือนกัน แต่ไม่ใช่คนเดียวกัน

หลายคนอาจคิดว่ามี “ลูกแฝด” เป็นเรื่องง่ายๆ เลี้ยงทีเดียว ไม่ต้องเหนื่อยหลายรอบ. . . . 

ถ้าเลี้ยงทางร่างกาย ก็อาจจะใช่ค่ะ แต่ถ้าเลี้ยง “จิตใจ” แม่หมีบอกเลยว่ามันยาก

จากประสบการณ์ตรงของแม่หมี การเลี้ยงแฝดเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากๆค่ะ

การที่ลูกเกิดมาพร้อมกัน โตมาด้วยกัน อาจทำให้เขาคาดหวังว่าจะได้รับการปฏิบัติที่เหมือนกัน

ซึ่งแม่หมีรู้ดีว่าการปฏิบัติให้เหมือนกันมันเป็นไปได้ยาก เพราะแต่ละคนนิสัยต่างกัน

เราจำเป็นต้องปฏิบัติให้ “ถูกจริต” ของแต่ละคน

แต่เด็กก็คือเด็กค่ะ ยิ่งเป็นลูกแฝดยิ่งเซนซิทีฟ ลูกจะรู้สึกทันทีว่าเขาได้รับ “ไม่เท่ากัน”

นี่จึงเป็นเรื่องยากในการเลี้ยงลูกแฝด เพราะทุกการกระทำของคนรอบข้าง

ลูกๆจะคอยสังเกตตลอด แม้ “คำพูด” ไม่กี่คำ ก็สามารถมีอิทธิพลต่อจิตใจได้เช่นเดียวกัน

“คำชม เหมือนดาบสองคม เมื่อเลี้ยงลูกแฝด”
หากกล่าวคำชื่นชมแค่คนเดียว อาจทำให้ลูกอีกคนรู้สึกน้อยใจหรือรู้สึกถูกตำหนิทางอ้อม

ดังนั้นแม่หมีแนะนำว่าควรจะชื่นชมลูกทั้งสองคนในเวลาเดียวกันค่ะ

“ลดความรู้สึกไม่เท่ากันด้วยการเห็นคุณค่า”
แม่หมีมักจะกล่าวชื่นชมลูกทั้งสองคน “ในมุมที่แตกต่างกัน”

เพื่อสอนให้เขารู้จักคุณค่าของตัวเอง คนนี้เก่งด้านนี้ อีกคนเก่งอีกด้านนึง

สอนให้เขาเป็นตัวของตัวเองค่ะ

“คำเปรียบเทียบ” จากคนนอกบ้าน เป็นสิ่งที่พ่อแม่อย่างเราจะไม่สามารถควบคุมได้

แต่ถ้าเราปลูกฝังให้ลูกรู้จักคุณค่าในตัวเอง คำเปรียบเทียบเหล่านั้นจะไม่สามารถ

กระทบจิตใจของลูกเราได้เลยค่ะ

พ่อแม่ที่มีลูกแฝดควรเก็บรายละเอียดมากกว่าปกติ ไม่ว่าจะการกระทำหรือคำพูด

ต้องบาลานซ์ให้ดีที่สุดนะคะ รวมถึงการเลี้ยงพวกเขาให้ “เป็นตัวของตัวเอง”

บอกให้เขารู้ว่าพวกเขาต่างกัน และมีสิทธิ์ที่จะต่างกันค่ะ ถึงแม้จะเกิดมาพร้อมกัน

แต่สุดท้ายแล้ว วันหนึ่งพวกเขาก็ต้องแยกไปมีชีวิตเป็นของตัวเองอยู่ดี

และคุณพ่อคุณแม่ควรวางรากฐานตรงนี้ให้ชัดเจนตั้งแต่ลูกยังเด็กๆค่ะ

คุณพ่อคุณแม่ท่านไหนมีประสบการณ์ หรือมีข้อแนะนำในการเลี้ยงลูกแฝด

สามารถคอมเม้นท์ใต้โพสต์ได้เลยนะคะ

#ลูกแฝด #วิธีการเลี้ยงลูกแฝด #เลี้ยงลูกแฝดแบบลูกเดี่ยว #แม่หมีกริซลี 

#แม่หมีว่าเวิร์ค #พ่อม้าน้ำและแม่หมีกริซลี